BGRIM แกร่งรับใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าสนามบินอู่ตะเภา มุ่งหน้าสู่ผู้นำพลังงานสะอาด

BGRIM

BGRIM แกร่งรับใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าสนามบินอู่ตะเภา มุ่งหน้าสู่ผู้นำพลังงานสะอาด

BGRIM

บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้รับข่าวดีจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ที่ผ่านมา ซึ่งได้รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ที่ได้อนุมัติใบอนุญาตการประกอบกิจการพลังงานให้แก่ เพื่อเดินหน้าโครงการผลิตไฟฟ้าและน้ำเย็นสำหรับสนามบินอู่ตะเภาและพื้นที่เมืองการบินในเขต EECa ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการขยายพอร์ตธุรกิจพลังงานและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน

แม้ว่าในช่วงไตรมาส 2 ปี 2568 ผลการดำเนินงานของบริษัทจะมีกำไรสุทธิลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่บริษัทฯ ยังคงยืนยันถึงความแข็งแกร่งของกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม และเตรียมพร้อมขยายพอร์ตพลังงานสะอาดอย่างเต็มที่ รวมถึงการเดินหน้าโครงการโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ โดยเฉพาะในสาธารณรัฐเกาหลีใต้ และการลงทุนในธุรกิจดาต้าเซ็นเตอร์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2569

นอกจากนี้  ยังได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในระดับสากลอย่างต่อเนื่อง เช่น รางวัล “Asia Employer Branding–HR Leader 2025” ที่สะท้อนถึงศักยภาพการบริหารทรัพยากรบุคคลที่เป็นมาตรฐานสากล และรางวัลด้านธรรมาภิบาลจากเวที ASEAN Corporate Governance Awards ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน

นักวิเคราะห์หลายสำนักยังคงมองว่า   มีพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และอยู่ในจังหวะที่น่าลงทุน โดยชี้ให้เห็นถึงปัจจัยบวกที่จะเกิดขึ้นในครึ่งปีหลัง เช่น ต้นทุนก๊าซที่ลดลง และโครงการพลังงานทดแทนใหม่ๆ ที่จะทยอยเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ ซึ่งจะช่วยผลักดันผลประกอบการให้กลับมาเติบโตได้อีกครั้ง


ประวัติ บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)BGRIM

บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM เป็นบริษัทลูกในเครือ บี.กริม กรุ๊ป ซึ่งเป็นกลุ่มบริษัทเก่าแก่ที่มีประวัติยาวนานกว่า 147 ปีในประเทศไทย และดำเนินธุรกิจหลากหลายประเภท

จุดเริ่มต้นของ บี.กริม กรุ๊ป

บี.กริม ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2421 โดยเภสัชกรชาวเยอรมันชื่อ แบร์นฮาร์ด กริม และหุ้นส่วนชาวออสเตรียชื่อ แอร์วิน มุลเลอร์ โดยเริ่มจากการเปิดร้านขายยาแผนปัจจุบันแห่งแรกในสยาม ชื่อว่า “สยามดิสเป็นซารี่” ที่ถนนเจริญกรุง และได้รับพระราชทานตรา “ครุฑพ่าห์” ในสมัยรัชกาลที่ 5 เพื่อเป็นผู้จัดหายาให้กับราชสำนัก

ในช่วงเวลาต่อมา บี.กริม ได้ขยายธุรกิจไปสู่หลากหลายอุตสาหกรรม ทั้งด้านวิศวกรรม การโทรคมนาคม การก่อสร้าง และได้มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคของประเทศ เช่น การขุดคลองรังสิตร่วมกับตระกูลสนิทวงศ์

ก้าวเข้าสู่ธุรกิจพลังงาน

ธุรกิจพลังงานของ บี.กริม เริ่มต้นขึ้นอย่างจริงจังใน ปี พ.ศ. 2536 เมื่อได้เป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกอุตสาหกรรมการผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนของประเทศไทย โดยใช้ชื่อในขณะนั้นว่า บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด และได้ร่วมมือกับบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อจัดตั้งโรงไฟฟ้า “อมตะ บี.กริม เพาเวอร์” ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมแห่งแรกที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในปี พ.ศ. 2541

หลังจากนั้น บี.กริม เพาเวอร์ ได้ขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่องและเติบโตขึ้นเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนชั้นนำ โดยมีโรงไฟฟ้าทั้งในรูปแบบพลังความร้อนร่วม (Co-generation) และพลังงานทดแทน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานน้ำ ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น ในสาธารณรัฐเกาหลีใต้ และประเทศเวียดนาม

เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

ในปี พ.ศ. 2560 บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ ได้จดทะเบียนและเข้าเป็นบริษัทมหาชนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) โดยใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์ว่า BGRIM ซึ่งนับเป็นก้าวสำคัญในการระดมทุนเพื่อขยายธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

ปัจจุบัน ดร. ฮาราลด์ ลิงค์ ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บี.กริม และเป็นผู้ขับเคลื่อนบริษัทให้เติบโตตามหลักปรัชญา “การดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี” โดยมุ่งเน้นการสร้างพลังงานสะอาดและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้คนควบคู่ไปกับการรักษาสิ่งแวดล้อม lucy-liu

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *